CDN (Content Delivery Network) คือกลุ่มของเซิร์ฟเวอร์ที่กระจายอยู่ในหลายที่ทั่วโลก ซึ่งเก็บข้อมูลที่ใกล้กับ ผู้ใช้ปลายทาง โดย CDN ช่วยในการส่งข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการโหลดเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ต เช่น หน้า HTML, JavaScript, Stylesheets, รูปภาพ และวิดีโอ ความนิยมของบริการ CDN ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แนะนำ Cloudflare ครับ และในปัจจุบัน ส่วนใหญ่บนเว็บ จะถูกส่งผ่าน CDN รวมถึงจากเว็บไซต์ใหญ่ๆ เช่น Facebook โดย CDN ที่ตั้งค่าถูกต้อง สามารถช่วยปกป้องเว็บไซต์จากการโจมตีที่พบได้บ่อยๆ เช่น การโจมตีแบบ Distributed Denial of Service (DDOS) เป็นต้นครับ
CDN กับ Web Host ต่างกันยังไง
CDN จะช่วยเสริมเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ทำให้คนนิยมหันมาใช้ CDN เพิ่มเติม ยกตัวอย่างเช่น การทำแคชเพื่อลดแบนด์วิธของเว็บโฮส ป้องกันการหยุดชะงักของเว็บโฮส ช่วยเพิ่มความปลอดภัย โดย CDN เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมเพื่อลดปัญหาหลักๆ ที่มาพร้อมกับเว็บโฮสครับ
ประโยชน์ของการใช้ CDN
การโหลดเว็บไซต์ -โดยการกระจายเนื้อหาให้ใกล้กับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ผ่านเซิร์ฟเวอร์ CDN ที่ใกล้เคียง ผู้เยี่ยมชมจะได้รับประสบการณ์การโหลดหน้าเว็บไซต์ที่เร็วขึ้น เมื่อผู้เยี่ยมชมเจอเว็บไซต์ที่โหลดช้า พวกเขามักจะตัดสินใจออกจากเว็บไซต์ CDN สามารถลดอัตราการตีกลับและเพิ่มระยะเวลาที่ผู้คนใช้บนเว็บไซต์ สรุปง่ายๆ เว็บไซต์ที่โหลดเร็ว จะทำให้ผู้เยี่ยมชมอยู่บนเว็บไซต์นานขึ้น
ลดค่าใช้จ่ายแบนด์วิธ – แบนด์วิธเป็นค่าใช้จ่ายหลักสำหรับเว็บไซต์ ด้วยการเก็บข้อมูลและการปรับแต่งอื่นๆ CDN สามารถลดจำนวนข้อมูลที่เซิร์ฟเวอร์ต้นทาง ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการโฮสต์ได้ครับ
เพิ่มความพร้อมการใช้งาน – ผู้เยี่ยมชมจำนวนมาก หรือการเกิดข้อผิดพลาดของฮาร์ดแวร์ อาจทำให้ขัดจังหวะการทำงานของเว็บไซต์ได้ ด้วยการกระจายตัวของเซิร์ฟเวอร์ CDN ทำให้สามารถรองรับผู้เยี่ยมชมได้มากขึ้น และทนทานต่อความผิดพลาดของฮาร์ดแวร์ได้ดีกว่าเดิมครับ
ความปลอดภัยของเว็บไซต์ – ช่วยเรื่องความปลอดภัย โดยการให้การบรรเทา ผลกระทบ เช่น DDoS, และการปรับแต่งอื่นๆ เกี่ยวกับด้านความปลอดภัยครับ
CDN ช่วยในการโหลดเว็บไซต์อย่างไร
เมื่อเว็บไซต์โหลดช้าลง ผู้ใช้มักจะออกจากเว็บไซต์ บริการ CDN สามารถช่วยลดเวลาโหลดได้ดีขึ้น การกระจายของ CDN ทั่วโลก หมายถึงระยะทางที่ลดลงระหว่างผู้ใช้และแหล่งข้อมูลเว็บไซต์ แทนที่จะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ต้นทาง แต่ CDN จะสามารถเชื่อมต่อกับศูนย์ข้อมูลที่ใกล้เคียงได้เลย และการปรับแต่งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เช่น การกระจายโหลดอย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้ฮาร์ดดิสก์แบบทันสมัย สามารถช่วยให้ข้อมูลถึงผู้ใช้ได้เร็วขึ้น และ CDN ยังสามารถลดจำนวนข้อมูลที่ส่งออกโดยการบีบอัดไฟล์และใช้เทคนิคการลดขนาดไฟล์ต่างๆ ครับ
CDN ช่วยให้เว็บไซต์ออนไลน์เสมอได้อย่างไร
การให้เว็บไซต์ออนไลน์ได้ตลอดเวลาเป็นสิ่งสำคัญ การล้มเหลวของฮาร์ดแวร์หรือการเพิ่มขึ้นของผู้เยี่ยมชม อาจทำให้เซิร์ฟเวอร์เว็บล่มได้ CDN ที่มีการออกแบบอย่างดี ช่วยลดการหยุดทำงานได้ครับ
CDN ปกป้องข้อมูลได้อย่างไร
CDN ช่วยรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์ด้วยใบรับรอง TLS/SSL ที่ช่วยให้มีการยืนยันตัวตน การเข้ารหัส และความสมบูรณ์ที่มีคุณภาพสูง
แนะนำปลั๊กอินสำหรับ WordPress
ขอแนะนำปลั๊กอินนี้ครับ App for Cloudflare ยกตัวอย่างเบื้องต้น Cloudflare สามารถแคชหน้า HTML ของคุณโดยอัตโนมัติในศูนย์ข้อมูลของ Cloudflare กว่า 330 แห่งทั่วโลก และยังมีฟังค์ชั่นอื่นอีกมากมายครับ
สรุป
CDN (Content Delivery Network) คือเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่กระจายอยู่ทั่วโลกเพื่อเก็บข้อมูลใกล้กับผู้ใช้ปลายทาง ทำให้การโหลดเนื้อหาบนเว็บไซต์เร็วขึ้น ลดค่าใช้จ่ายแบนด์วิธ และเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ โดยการจัดการผู้เยี่ยมชม (Traffic) และลดเวลาแฝง (Latency) นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยจากการโจมตี DDoS และป้องกันการหยุดทำงานของเว็บไซต์ โดยการกระจายข้อมูลและการใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การบีบอัดไฟล์และการกระจายโหลด เป็นต้นครับ
ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก Cloudflare
